Syphilis

ซิฟิลิส (Syphilis) คืออะไร?

ซิฟิลิส คือโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียแบบเกลียวชื่อ เทรโพนีมา พัลลิดัม
โรคนี้ติดต่อได้จากน้ำอสุจิหรือน้ำหล่อลื่นช่องคลอดที่มีเชื้อ แบคทีเรียเทรโพนีมา พัลลิดัมของผู้ติดเชื้อไปสัมผัสกับเยื่อเมือกหรือผิวหนังในเวลามีเพศสัมพันธ์
ระยะหลังมานี้ ผู้ติดเชื้อซิฟิลิสในญี่ปุ่นเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว
แม้ติดเชื้อโรคซิฟิลิสแล้ว แต่ก็มีช่วงเวลาที่ไม่แสดงอาการ
ผู้ติดเชื้ออาจมีช่วงเวลาที่ไม่แสดงอาการใดเลยหลังจากรับเชื้อมา และด้วยเหตุนี้ จึงมักมองข้ามโรคซิฟิลิสไปได้ง่าย และมีความเสี่ยงที่จะแพร่กระจายเชื้อต่อโดยไม่รู้ตัว
และยังมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้อีก (แม้ว่าจะได้รับการรักษาซิฟิลิสไปครั้งหนึ่งแล้ว)
โดยทั่วไป หลังจากระยะฟักตัวประมาณ 3 สัปดาห์หลังการติดเชื้อ จะมีก้อนและแผลพุพอง (การเปลี่ยนแปลงสภาพผิวหนัง) เกิดขึ้นบริเวณที่เชื้อเทรโพนีมา พัลลิดัมแทรกซึมเข้าไป
อาการเช่นนี้เรียกว่าซิฟิลิสระยะที่ 1
อาการต่าง ๆ จะหายไปหลังจากนั้น และจะเกิดอาการหลากหลายกับผิวหนังทั่วร่างกายขึ้นอีก หลังจากระยะฟักตัวต่อไปอีก 4-10 สัปดาห์ (ซิฟิลิสระยะที่ 2)
อาการอาจจะหายไปเองในไม่กี่สัปดาห์แม้จะไม่ได้รักษา ดังนั้นบางคนจึงรับรู้สถานะเป็นครั้งแรกจากการตรวจเลือดหลังจากนี้
นอกจากนี้ อาการของโรคซิฟิลิสอาจปรากฏภายในช่องปากได้จากการมีเพศสัมพันธ์ทางปาก แต่มักถูกมองข้าม
เมื่อโรคลุกลามมากขึ้นจะเกิดก้อนเนื้อที่เรียกว่า กัมมา ตามผิวหนัง และเชื้อจะค่อยๆ แทรกซึมเข้าหัวใจ เส้นเลือดใหญ่ สมอง ระบบประสาท และระบบอื่นๆ หลังจากนั้นเป็นเวลาหลายปี
ซิฟิลิสจะลุกลามไวขึ้นในผู้ติดเชื้อเอชไอวีและมักมีความผิดแปลกไปจากปกติ
เช่น แสดงอาการของซิฟิลิสระบบประสาทอย่างรวดเร็วมากกว่าทั่วไป

เส้นทางการติดเชื้อและวิธีป้องกันซิฟิลิส

โรคนี้ติดต่อได้จากน้ำอสุจิหรือน้ำหล่อลื่นช่องคลอดที่มีเชื้อ Treponema pallidum ของผู้ติดเชื้อได้สัมผัสกับเยื่อเมือกหรือผิวหนังในเวลามีเพศสัมพันธ์
หากหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ติดเชื้อซิฟิลิส สามารถถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูกผ่านทางรก และส่งผลกระทบต่อทารก
โดยอาจส่งผลให้เกิดการแท้งหรือทารกเสียชีวิตในครรภ์ หรือบางรายอาจทำให้ทารกเป็นโรคซิฟิลิสแต่กำเนิด
ไม่มีวิธีใดสามารถป้องกันซิฟิลิสได้อย่างสมบูรณ์แบบ
หากคุณคิดว่าตัวเองมีความเสี่ยง สำคัญมากที่จะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโดยเร็ว เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่คู่นอนของคุณ
ถุงยางอนามัยมีข้อดีที่ช่วยลดการสัมผัสเยื่อเมือกกับผิวหนัง ซึ่งลดความเสี่ยงในการติดเชื้อลงได้ระดับหนึ่ง และช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ได้ แต่ไม่สามารถป้องกันซิฟิลิสได้

การตรวจหาซิฟิลิส

คุณจะทราบว่าเป็นโรคซิฟิลิสหรือไม่ด้วยการตรวจเลือด แม้จะเคยได้รับการรักษามาแล้ว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาสม่ำเสมอเนื่องจากเชื้อโรคซิฟิลิสอาจยังคงหลงเหลืออยู่ หรืออาจเกิดการติดเชื้อขึ้นซ้ำได้
โรคซิฟิลิสมีระยะไม่แสดงอาการที่ยาว หรือแม้มีอาการก็มักไม่รู้ตัวว่าเป็นซิฟิลิส สิ่งสำคัญคือรีบตรวจหาเชื้อเมื่อรู้สึกว่าตนมีความเสี่ยง และรีบรักษา
แม้เคยรักษาจนหายขาดแล้วก็มีโอกาสติดเชื้อซ้ำได้อีก

วิธีรักษาซิฟิลิส

ยาปฏิชีวนะตระกูลเพนิซิลินมีประสิทธิผลดีมากในเคสที่มีอาการหนัก
สำหรับผู้ที่แพ้ยาตระกูลเพนิซิลิน สามารถรักษาโดยใช้ยาชนิดอื่นได้เช่นกัน
หลังเริ่มรักษาซิฟิลิสระยะเริ่มแรกได้ไม่นาน อาจมีอาการไข้สูงและมีผื่นขึ้นชั่วคราว ที่เรียกว่าปฏิกิริยา Jarisch-Herxheimer
อาการดังกล่าวสามารถรักษาได้โดยให้ยาลดไข้ ก็จะหายไปภายใน 1-2 วัน
บางครั้งอาการที่เกิดขึ้นอาจแยกออกจากอาการแพ้ยาได้ยาก
หากมีอาการผิดปกติ กรุณาปรึกษาแพทย์